Me , myself and my film camera : Leica M2-R

กล้อง Leica M ที่ชอบที่สุดของผม

[vc_section][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]

Me, Myself and My Camera จะเป็นคอลัมน์ใหม่ที่ผมจะเขียนและเล่าถึงอุปกรณ์ถ่ายภาพที่เป็นที่รัก และมีความผูกพันโดยได้รับแรงบันดาลใจรวมถึงถูกชวนเชิญมาจากช่างภาพและนักเขียนรุ่นพี่อย่างพี่ ‘นิว’ – ศุภชัย เกศการุณกุล ในคอลัมน์นี้อาจจะเขียนขึ้นโดยความรู้สึกส่วนตัวที่มีกับของรักอย่างกล้องถ่ายภาพ อาจจะตรง หรือไม่ตรงกับความรู้สึกคนอื่น ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ​ ที่นี่ด้วยครับ

[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]

ถ้าให้พูดถึงกล้องฟิล์ม Leica M2 อาจจะเป็นกล้องตัวแรกเริ่มต้นของใครหลายๆคน เนื่องจากเป็นกล้องตัวที่ราคาไม่สูงมากถ้าเทียบกับกล้อง Leica รุ่นอื่นที่ใหม่และสดกว่า แต่สำหรับผมนั้นกลับเป็นกล้องที่คิดว่าเป็นตัวจบ และเป็นตัวที่ชอบที่สุดตัวหนึ่งในตระกูล Leica M ของกล้องทั้งหมดที่เคยใช้งานมา กล้อง Leica M2 เริ่มแรกผลิตขึ้นในปี 1957 (เป็นกล้องรุ่นต่อที่พัฒนาขึ้นจาก Leica M3) และผลิตต่อเนื่องจนถึงปี 1968 โดยในสายการผลิตทั้งหมดมีจำนวน 82,000 ตัว แบ่งเป็นสีดำ black paint จำนวน 2,451ตัว และ M2-R อีก 2000 ตัวที่เหลือเป็นสี Silver Chrome Leica M2 มีน้ำหนักประมาณ 560g บอดี้เป็นทองเหลือง และกลไกลภายในเป็นทองเหลืองเกือบทั้งหมด ทำให้กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ใช้งานได้ดี และทนทานมาก

[/vc_column_text][vc_column_text]

โดยประวัติคร่าวๆของกล้อง Leica M2-R นั้นเป็นกล้องที่ถูก Us Military สั่งให้ Leica ผลิตให้ เพื่อวางแผนจะนำไปใช้ในสงคราม แต่กล้องยังผลิตไม่เสร็จ ก็ถูกทาง Us Military ยกเลิกกลางคันทาง Leica เลยนำมาตอกใส่ชื่อรุ่นว่า M2-R และมีแค่เพียง 2,000 ตัวในโลกเท่านั้น Leica M2-R ยังเป็นกล้องตัวแรกที่ถูกปรับปรุงวิธีการใส่ฟิล์มจากการใช้ film spool ที่ยุ่งยากมาเป็น Rapid Load แบบ 3 เขี้ยว ก่อนที่จะนำมาใช้ใน Leica M4 , M6 , M7 และ MP อยู่ในปัจจุบัน

[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”6552″ img_size=”full” onclick=”link_image”][vc_single_image image=”6553″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row full_width=”stretch_row_content”][vc_column][vc_single_image image=”6550″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]

ผมเริ่มรู้จักและศึกษาเกี่ยวกับกล้อง Leica ครั้งแรกประมาณปี 2008 เริ่มจากหลงใหลประวัติด้วยรูปทรงสุด classic ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน แต่ด้วยราคาที่สูง และยังพึ่งเรียนจบไม่นาน จึงทำให้ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ จนกระทั่งปี 2010 จึงตัดสินใจขายกล้อง Digital ทั้งหมดและเก็บเงินได้ส่วนหนึ่งไปซื้อกล้อง Leica M พร้อมเลนส์ตัวแรกคือ Leica M6 กับเลนส์ 50mm Summicron ด้วยความเป็นวัยรุ่น(ใจร้อน) ที่เคยใช้งานกล้อง Digital มาตลอดเกือบ 5 ปี ทำให้การใช้งานกล้องฟิล์มในช่วงนั้นของผมเป็นอะไรที่อึดอัด เพราะทุกภาพที่จะถ่ายมันมีราคาที่ต้องจ่าย จนในที่สุดผมก็ได้คำตอบว่า กล้อง Leica M6 ตอนนั้น ก็ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเพื่อเป็นกล้องตัวเดียวของผมได้ จึงจำเป็นต้องแยกทางกันและกลับไปซบอกกล้อง Digital ต่อไป

[/vc_column_text][vc_column_text]

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนผมได้มีโอกาส กลับมาใช้กล้อง Leica อีกครั้งในช่วงปี 2013 ผมซื้อกล้อง Leica M9 กับเลนส์ 35mm Summicron V1 มาใช้ และใช้อยู่ยาวนาน ความใจร้อนของผมเริ่มลดลง บวกกับหน้าที่การงานของผมดีขึ้นจนมีเงินเก็บ ทำให้ผมได้ซื้อกล้อง Leica M6 กลับมาใช้งานอีกครั้ง เริ่มจาก M6 ขยับขึ้นไป M7 ที่เป็นไฟฟ้า และมี Mode A​ (Automatic exposure mode) จนขยับขึ้นไปสู่รุ่นท๊อปสุดที่และออกแบบมาดีสุดอย่าง Leica MP (mechanical perfection) กล้อง ​Leica MP ผ่านมือผมอยู่หลายตัว ทั้ง Limited (MP Anthracite, MP-3, A la carte) และไม่ Limited เนื่องจากผมอยากเปลี่ยนจากสี Black Paint เป็นสี Silver Chrome บ้าง และบางทีก็อยากกลับมาสีดำอีก แล้วก็ไป Leica M4 Blackpaint จนท้ายสุดคผมก็ได้เป็นเจ้าของ Leica M2 Blackpaint (Original) สีดำที่ผลิตออกมาแค่สองพันกว่าตัวและกล้อง Leica M2 Blackpaint ตัวนั้นก็ทำให้ผมหลงรัก Leica M2 อย่างเป็นทางการ

[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”6546″ img_size=”full” onclick=”link_image”][vc_single_image image=”6544″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”6545″ img_size=”full” onclick=”link_image”][vc_single_image image=”6548″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row css=”.vc_custom_1587527586968{background-position: center !important;background-repeat: no-repeat !important;background-size: contain !important;}”][vc_column css=”.vc_custom_1587527408712{background-position: center !important;background-repeat: no-repeat !important;background-size: cover !important;}”][vc_column_text]

Practice makes perfect

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row full_width=”stretch_row_content” equal_height=”yes”][vc_column][vc_single_image image=”6541″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][/vc_section][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]

ผมใช้กล้อง Leica M2 Blackpaint ตัวนั้นอยู่เกือบจะสองปีจนได้มาเจอ M2-R ตัวนี้ คนขายอยู่สิงคโปร์ พอดีช่วงนั้นมีญาติเดินทางไปสิงคโปร์พอดีเลยฝากให้ไปนัดเจอและพากลับมาด้วย ตอนผมเห็นภาพตอนแรกผมคิดว่าเป็นหนังที่พิมพ์ลายไม้ ในระหว่างที่รอของเดินทางกลับมา ผมก็เลยสั่งหนังของ M2 สีดำจากญี่ปุ่นมารอไว้ แต่พอมาถึงตรงลายไม้กลับเป็นไม้จริง สัมผัสก็เป็นไม้จริง ใครมาเจอก็ชอบและอยากรู้ว่าไม้นี้มาจากไหน ผมเองก็ตอบไม่ได้ เคยสอบถามไปทางคนขาย ก็ได้คำตอบว่าเค้าก็ได้มาแบบนี้เลยเช่นกัน

[/vc_column_text][vc_column_text]

จากที่ผมได้เล่าไปว่าผมเคยได้ใช้งานกล้อง Leica M มาเกือบจะทุกรุ่น (อาจจะมีขาดแค่ Leica M1 , M5 เท่านั้น) จากประสบการณ์ส่วนตัวรู้สึกว่าเราชอบ shutter ที่นุ่ม และความนุ่มของ shutter ในกล้องที่เป็นระบบกลไกลเป็นทองเหลืองนั้น น่าจะมาจากกล้องที่ผ่านการใช้งานและกด shutter มาเป็นจำนวนมาก และการที่มี shutter นุ่มนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่าผมสามารถถือกล้องถ่ายได้นิ่งขึ้น โดยที่ผมไม่ต้องออกแรงของนิ้วชี้กดลงไปบน shutter มากมาย และทำให้ผมถือกล้องถ่ายด้วย speed shutter ที่ต่ำลงอย่าง 1/8 ได้ การที่ได้กด shutter นุ่มๆนั้นทำให้ผมกลับไปกด shutter ที่แข็งๆแล้วไม่มีความสุขอีกต่อไปนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ที่ผมชอบ Leica M2 เหนือกล้องตัวอื่นๆ โดยเฉพาะ Leica MP

[/vc_column_text][vc_column_text]

แต่นอกเหนือจากความนุ่มของ shutter กับหน้าตาอันสุด classic แล้วยังมีอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ผมหลงรักเจ้ากล้อง Leica M2 ก็คือ มันช่วยกระตุ้นให้ผมเป็นช่างภาพที่ดีขึ้น ความสุดแสนจะธรรมดาของ Leica M2 กล้องอายุ 63 ปี ที่ไม่มีโหมดอะไรอัตโนมัติเลยสักอย่าง ไม่มีวัดแสงอัตโนมัติ หรือ shutter อัตโนมัติ หรือแม้กระทั่งระบบขึ้นฟิล์มอัตโนมัติ กล้องตัวนี้จึงเป็นกล้องที่เปรียบเสมือนครูที่ไม่ได้สอนการถ่ายภาพให้ผมโดยตรง แต่เป็นเครื่องคอยกระตุ้นให้ผมต้องไปศึกษาวิชาการถ่ายภาพเพิ่มเติม เพื่อจะพัฒนาภาพถ่ายออกมาให้น่าพอใจ เพราะว่ากล้องมันติดแบรนด์ Leica อยู่ก็จริง แต่จริงๆแล้วภาพจะออกมาเป็นอย่างไร มันขึ้นอยู่กับจินตนาการและความรู้ความสามารถของผู้ถ่ายมากกว่า ว่าจะให้ภาพออกมาเป็นแบบไหน กล้องตัวนี้ทำให้ผมฝึกการวัดแสง Sunny 16 ด้วยตาเปล่าสำเร็จ จากที่พยายามฝึกทำในกล้องตัวอื่นที่มีวัดแสง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ฝึกต่อ เพราะมัวแต่ใช้ Mode Auto ทำให้ผมฝึกเทคนิคในการ pre-focus , zone-focus และเรียนรู้เทคนิคอื่นๆที่สำคัญแต่ถูกละเลยเพราะกล้องรุ่นใหม่ๆ คิดแทนให้แล้ว จึงทำให้ผมสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้น ผลพวงของกล้องตัวนี้ยังทำให้ผมรู้จักช่างภาพมากมาย และเปิดจินตนาการของผมให้กับโลกแห่งการถ่ายภาพไปอีกไม่รู้จบและที่แน่นอน เทคนิคและความรู้เหล่านั้นติดตัวผมไปตลอดกาล ดั่งวลีที่ว่า “Practice makes perfect”

[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row][vc_row equal_height=”yes”][vc_column][vc_single_image image=”6566″ img_size=”full” onclick=”link_image”][vc_single_image image=”6574″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row full_width=”stretch_row” full_height=”yes” equal_height=”yes”][vc_column][vc_single_image image=”6567″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row equal_height=”yes”][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”6569″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”6570″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row equal_height=”yes”][vc_column][vc_single_image image=”6572″ img_size=”full” onclick=”link_image”][vc_single_image image=”6571″ img_size=”full” onclick=”link_image”][vc_single_image image=”6573″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row equal_height=”yes”][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”6577″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][vc_column width=”1/2″][vc_single_image image=”6575″ img_size=”full” onclick=”link_image”][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/6″][/vc_column][vc_column width=”2/3″][vc_column_text]

และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ผมชื่นชอบกล้อง Leica M2 มากกว่ากล้องตัวอื่นๆ ในตระกูล Leica M แล้วกล้องตัวโปรดของคุณเป็นตัวไหน ? ครั้งหน้าใน Me , Myself & My Camera นั้นผมจะเอากล้องตัวไหนมาเล่าและพูดถึงให้ฟัง รอติดตามกันนะครับ

[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/6″][/vc_column][/vc_row]

Comments

There are no comments yet.

Leave a comment